โดย ดร.ลักษณ์นัยน์ ทรงเสี่ยงไชย
นักวิจัยประจำศูนย์เอเชียใต้ศึกษา
สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ความสำคัญของ Digital transferring คือ สิ่งทุกประเทศกำลังให้ความสนใจ โดยเน้นย้ำว่าการปรับตัวเข้าหานวัตกรรมเป็นสิ่งที่ปฏิเสธได้ยากในขณะนี้ ภาคธุรกิจต้องพึ่งพาช่องทางแบบ e-commerce เพื่อความอยู่รอด ในขณะที่แพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางในการอุปโภคบริโภคสามารถสร้างผลตอบแทนได้มหาศาล เช่น การส่งอาหารเดลิเวอรี การขายสินค้า การประชุมสัมมนา การเสพศิลปะและความบันเทิง แพลตฟอร์มเหล่านี้จะถูกพัฒนาให้มีตัวเลือกที่หลากหลายขึ้น นอกจากนี้การระดมทุนธุรกิจของสตาร์ทอัพขยายขอบเขตได้กว้างขึ้นโดยไม่จำกัดอยู่เพียงแหล่งทุนภายในประเทศ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่มองว่าสถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้ได้สร้างโอกาสทางธุรกิจผ่านช่องทางใหม่ๆ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่โลกของเราจะหันหน้าเข้าสู่ยุคดิจิตอลแบบเต็มรูปแบบ
กลุ่มผู้นำยังตั้งข้อสังเกตว่า คนรุ่นใหม่แสดงความเอาใจใส่กับอำนาจทางการเมือง ทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ถกเถียงเกี่ยวกับมาตราการทางสาธารณสุข นโยบายการบริหารงาน และความไม่โปร่งใสของรัฐ เกิดเครือข่ายแบ่งปันข้อมูลกันแบบไร้พรมแดนเพื่อเสนอทางแก้ไขและยื่นข้อเรียกร้องให้ภาครัฐดำเนินการ เช่น ลดค่าธรรมเนียม ภาษี ดอกเบี้ยการกู้ยืม การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต และการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ต้องไม่ใช่แค่การกำจัดเชื้อโรค (disease) แต่เป็นสภาวะความเจ็บไข้ทางด้านจิตใจ (illness) ที่มาจากผลกระทบของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย
ประเทศสิงคโปร์มีทูตดิจิตอลจำนวนมาก อาสาสมัครเหล่านี้คอยช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุให้เข้าถึงบริการพื้นฐาน เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต การเงิน การแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ ประเทศมาเลเซียส่งอาสาสมัครออกให้ความรู้เรื่องการเท่าทันสื่อเพื่อรับมือกับข่าวปลอม โดยเล็งเห็นว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนใช้โซเซียลมีเดียมากและยาวนานกว่าปกติ การรับสารโดยไม่ผ่านการไตร่ตรองข้อเท็จจริง หรือตรวจสอบแหล่งที่มา จะสร้างความวิตกกังวลเกินกว่าเหตุ สร้างความขัดแย้งกับบุคคลภายนอก อันได้แก่ ผู้กลับจากต่างประเทศ ผู้อพยพ และแรงงานข้ามชาติ ได้ง่าย สำหรับประเทศไทยส่งเสริมให้อาสาสมัครสาธาณสุขหมู่บ้าน (อสม.) เข้ามามีบทบาทในการเฝ้าติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเพื่อลดภาระการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ นับเป็นการทำงานในระดับชุมชนที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
"การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอินเดียกับภูมิภาคอาเซียนย่อมก่อให้เกิดผลดีต่อความร่วมมือที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านสังคมวัฒนธรรม เศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี และสาธารณสุข เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าไว้ด้วยกัน"
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “การพัฒนาความเชี่ยวชาญเอเชียใต้ศึกษา South Asian Experts”
ที่ได้รับทุนสนับสนุนโครงการจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)