
โดย นงค์ลักษณ์ บัทเลอร์
นักวิจัยผู้ช่วยประจำศูนย์เอเชียใต้ศึกษา
สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
งานเขียนประเภทเรื่องสั้นของรพินทรนาถ ฐากูร นักเขียนชาวอินเดีย เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม เมื่อค.ศ. 1913 เรื่องสั้นจำนวน 20 เรื่อง ได้ถูกนำมาดัดแปลงเป็นซีรีส์ฉายทางโทรทัศน์เมื่อค.ศ. 2015 จำนวน 26 ตอน โดยการสร้างสรรค์ของ Anurag Basu ซึ่งมีความสนใจในงานเขียนของรพินทรนาถ
เรื่องสั้นของรพินทรนาถแม้จะเขียนเมื่อ 150 ปีก่อน แต่ยังคงสามารถเชื่อมผู้คนด้วยเรื่องเล่าผ่านมุมมองเชิงสังคม การเมือง วัฒนธรรม ชีวิต ฯลฯ ด้วยความคิดก่อนกาลหรือความล้ำสมัยของนักเขียนยังคงร่วมยุคร่วมสมัยมาโดยตลอด ยังคงมีการหยิบยกผลงานมาวิเคราะห์ ตีความ งานวรรณกรรมจึงเป็นภาพสะท้อนสังคมอินเดียได้อีกทางหนึ่ง

บริบทของเวลา เหตุการณ์ สถานที่ในเรื่องสั้นทั้ง 20 เรื่อง เป็นช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 ได้แก่ Chokher Bali, 1903 (A Grain of Sand); Atithi, 1895 (The Guest); Maanbhanjan, 1895 (Fury Appeased); Detective, 1898; Kabuliwala, 1892; Shasti, 1893 (Punishment); Nastanirh, 1901 (The Broken Nest); Khokababur Pratyabartan, 1891 (The Return of Khokababu); Samapti, 1893 (The Conclusion); Chhuti, 1892 (The Homecoming); Tyaag, 1892 (The Renunciation); Sampatti Samarpan, 1891 (The Trust Property); Dui Bon, 1933 (Two Sisters); Strir Patra, 1914 (Wife’s letter); Aparichita, 1916 (The Unknown Woman); Kankal, 1892 (The Skeleton); Musalmaner Golpo, 1941 (The Story of a Muslim Woman); Shesh Rokkha, 1926-1929 (Saved at Last); Monihara, 1989 (The Lost Jewels); Daliya, 1892 (Dalia)
Stories by Rabindranath Tagore ปรากฏประเด็นเกี่ยวกับผู้หญิงอย่างชัดเจน ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย แม้นักเขียนจะเน้นบทบาทของผู้หญิงทั้งในบ้านและนอกบ้าน อารมณ์ ความรัก ความปรารถนา ควบคู่ไปกับอภิสิทธิ์ของผู้ชาย สังคมปิตาธิปไตย แต่วรรณะก็เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขที่สร้างให้เกิดความเหลื่อมล้ำต่อผู้หญิง
อย่างไรก็ตาม พื้นหลังของเรื่องเล่ายังมีคาบเกี่ยวกับช่วงเวลาการตกเป็นอาณานิคม มีเหตุการณ์การชุมนุมเพื่อเรียกร้องการปลดแอกจากเจ้าอาณานิคมปรากฏให้เห็นในซีรีส์หลายตอน ตัวอย่างการปลดแอกกับเจ้าอาณานิคม เช่น การเผาเสื้อผ้าแบบตะวันตก การต่อสู้เชิงสัญลักษณ์กับเจ้าอาณานิคม กระบวนการต่อต้านขัดขืนดังกล่าวดำเนินไปพร้อมกับการปลดแอกให้กับผู้หญิงในเรื่องสั้น
นอกจากนี้ พื้นหลังของเรื่องเล่ายังสะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนผ่านของชนบท การเติบโตของระบบอุตสาหกรรม และเมืองใหญ่อย่าง กัลกัตตา กำลังมุ่งสู่ความเป็นสมัยใหม่ สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการปะทะกันของความคิดเก่า/ใหม่ ขณะเดียวกันแนวคิดอนุรักษนิยมแบบอินเดียก็ยังเหนียวแน่น โดยเฉพาะในเรื่อง ‘วรรณะ’ ที่มีส่วนเข้าไปกำหนดบทบาท โอกาส ชะตาชีวิตของผู้หญิงได้เช่นเดียวกัน รวมถึง การคลุมถุงชนแบบอินเดีย ที่ทำให้ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต่างถูกกดทับทางความรู้สึก แม้จะมีความพยายามขบถต่อจารีตประเพณีที่สืบทอดมายาวนานนี้ก็ตาม เรื่องราวดังกล่าว ปรากฏเป็นการเคลื่อนไหวทางความคิดที่ส่งต่อไปยังผู้อ่านและผู้ชม เล่าเรื่องแบบไม่ปลุกระดม แต่กลับเต็มไปด้วยเหตุและผลมารองรับ เพื่อให้เลือกตัดสินใจหรือเปรียบเทียบวิเคราะห์ วิพากษ์อย่างอิสระ
การศึกษา: ติดปีกปัญญาให้กับผู้หญิง
ในประวัติศาสตร์ผ่านมา การศึกษานับเป็นสิทธิพื้นฐานอีกหนึ่งอย่างที่นำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเพศชายและหญิง ผู้ชายมักได้อภิสิทธิ์ในการเข้าถึงการศึกษา เนื่องจากถูกประกอบสร้างจากสังคมในฐานะที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องรับผิดชอบต่อครอบครัว ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ในขณะที่ผู้หญิงไม่ต้องได้รับการศึกษา สิ่งเหล่านี้จึงเป็นความชอบธรรมที่สังคมประกอบสร้างไว้ให้ แต่งานเขียนของรพินทรนาถกลับมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้หญิง เพื่อชี้ให้เห็นว่าเมื่อผู้หญิงเข้าถึงการศึกษา แม้เพียงอ่านออกเขียนได้ก็ช่วยให้พวกเธอไม่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของความไม่รู้
ตัวละครหญิงหม้ายในเรื่อง Chokher Bali ที่ถูกสังคมตีตราว่าเป็นกาลกิณี ทำให้เธอหมดโอกาสทางสังคม แต่การรู้หนังสือของเธอได้มอบโอกาสให้กับเธอ โดยไม่ต้องคอยแต่จะต้องพึ่งพาฝ่ายชาย และยังเล่าเรื่องผ่านผู้หญิงอีกคนที่ไม่รู้หนังสือซึ่งเป็นภรรยาของชายที่หลงรักเธอหัวปักหัวปำ
หรือแม้แต่ในวรรณะแพศย์ กลุ่มชนชั้นนำทางสังคม ส่วนใหญ่ตัวละครในเรื่องเล่าจะอยู่ในวรรณะนี้ แนวคิดเกี่ยวกับการเข้าถึงการศึกษาทั้งผู้ชายและผู้หญิง ถูกปลูกฝังส่งต่อกันมาว่าเมื่อมาใช้ชีวิตร่วมกัน เธอต้องพึ่งพาผู้ชาย แม้มีว่าการศึกษาก็ตาม ดังนั้น การศึกษาจึงไม่ได้ติดปีกให้เธอโบยบินอย่างอิสระ เพราะผู้หญิงต้องรับบทบาทของการเป็นเมีย เป็นแม่ภายในบ้าน อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงการศึกษาไม่ได้เป็นคำตอบสำเร็จรูปในการลดความเหลื่อมล้ำในความสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิงเสมอไป แต่ถึงอย่างไร ผู้หญิงก็ควรจะได้รับสิทธิในการเข้าถึงการศึกษาเช่นเดียวกับชาย

การคลุมถุงชน
ประเพณีการแต่งงานแบบคลุมถุงชนของอินเดียที่ปรากฏหลายตอนในซีรีส์ นำเสนอภาพความรู้สึกของฝ่ายชายซึ่งมีการศึกษา รับรู้วิทยาการที่ทันสมัย และแนวคิดสมัยใหม่ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่ได้รับอิสระในการเลือกคู่ครอง แม้จะไม่กล้าขบถต่อคำสั่งของพ่อและแม่ ล้วนก่อให้เกิดความกระอักกระอ่วนใจที่ต้องยึดจารีตดั้งเดิม สะท้อนให้เห็นว่า สังคมปิตาธิปไตยหรือชายเป็นใหญ่บางครั้งกัดเซาะความรู้สึกคนที่เป็นเจ้าของมันอยู่
การต่อต้านการถูกคลุมถุงชนที่ปรากฏในเรื่อง Athiti เรื่องเล่าถึงฝ่ายชายซึ่งเป็นเด็กเร่ร่อนหนีการถูกคลุมถุงชนจากครอบครัวอุปการะ ที่ต้องการให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของครอบครัวตัวเอง ส่วนเรื่อง Dhai Aakhar Prem Ka เล่าถึงนักเขียนชายผู้สนใจวรรณกรรม ต้องเผชิญหน้ากับจารีตในการถูกคลุมถุงชน จึงขัดขืนไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อ-แม่เลือกไว้ให้ เพราะต้องการที่จะเลือกคู่ชีวิตเป็นผู้หญิงที่เขารู้สึกด้วยเท่านั้น เพื่อนๆ จึงช่วยกันวางแผนการให้เขาไม่ต้องถูกคลุมถุง การเล่าเรื่องสนุกชวนหัวแต่ก็แฝงการวิพากษ์ไว้อย่างแยบยล และเรื่อง Tyaag เล่าถึงพ่อสื่อที่ไม่ให้ความสนใจต่อระบบวรรณะที่ต่างกัน แม้จะรับรู้ว่าฝ่ายเจ้าสาวมีวรรณะต่ำกว่าฝ่ายเจ้าบ่าว ทำให้ต้องช่วยปกปิดวรรณะอันแท้จริงของฝ่ายหญิงที่ถูกคนจากวรรณะสูงกว่าขอมาอุปการะ จนนำไปสู่ความขุ่นเคืองใจ ความรักที่เกิดขึ้นของบ่าวสาวจึงกลายเป็น รักไม่สนิทใจ จากความรู้สึกของฝ่ายชายที่ได้ภรรยาจากวรรณะต่ำกว่า การกระทำของพ่อสื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าความรักก้าวพ้นจากการเป็นวรรณะ ขณะที่เรื่อง Punishment ได้พูดถึงชีวิตแต่งงานกับการตกเป็นทรัพย์สินของฝ่ายสามี จนนำไปสู่โศกนาฏกรรม
ความรักเล่นไม่ซื่อ
การนอกใจจนเผลอรับอีกคนมาไว้ข้างใจของผู้หญิงถูกถ่ายทอดออกมาให้รู้สึกเป็นเรื่องปกติ ผ่านวิธีการเล่าเรื่อง การถ่ายทอดภาษาหนังกับภาษาวรรณกรรม โดยที่ความรู้สึกของมนุษย์ปุถุชนจึงไม่ถูกตัดสินถูก-ผิด ทั้งการยับยั้งชั่งใจ ความมีสติ ความเหมาะสม เหตุที่นำไปสู่การกระทำเช่นนั้น ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องมีการลงมือลงไม้ ไม่เกิดความรุนแรงในครอบครัวเชิงกายภาพ แต่เจ็บช้ำภายในใจ
ในเรื่อง Two Sisters สะท้อนให้เห็นถึงรอยบาดหมางในความสัมพันธ์ระหว่างพี่เขยกับน้องเมียที่เกินเลย ต่างคนจึงพบทางสามแพร่งของตัวเอง จนคลี่คลายไปสู่ทางออก สำหรับในเรื่อง Two Sisters มีประเด็นความเป็นสมัยใหม่ของสังคมอินเดียในกัลกัตต้า ทั้งการเล่นเทนนิสในกลุ่มชนชั้นคหบดี นักธุรกิจ ปรากฏให้เห็นการเปลี่ยนผ่านและการเข้ามาของวัฒนธรรมชีวิตแบบตะวันตก ส่วนอีกเรื่องที่พูดถึงประเด็นนอกใจของผู้หญิง คือ ความสัมพันธ์ระหว่างพี่สะใภ้กับน้องผัวในเรื่อง Broken Nest เมื่อถึงที่สุดต่างฝ่ายต่างไปตามทางของตัวเอง
“การนอกใจ” ที่ถูกสื่อสารผ่านเรื่องสั้นของรพินทรนาถ บางครั้งทำให้รู้สึกเห็นอกเห็นใจ และเข้าข้างฝ่ายชายที่ถูกนอกใจ ทั้งสองเรื่องไม่มีบทลงโทษในเชิงสังคมวัฒนธรรมแบบถอนรากถอนโคน เป็นปัญหาในครอบครัวที่ต่างคนต่างหาทางออกร่วมกัน การที่ฝ่ายชายได้รับอภิสิทธิ์ในสังคมชายเป็นใหญ่ การนอกใจของผู้ชายที่สังคมอนุโลม อนุญาติ ให้ทำได้ตามอำเภอใจจึงเป็นเรื่องปกติ คุ้นชิน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ภาษาหนังและภาษาวรรณกรรมปล่อยให้ผู้หญิงเป็นคนทำแบบนั้นบ้างก็ทำให้เห็นว่าในที่สุดแล้ว การเป็นผู้ชายที่ไม่ถูกรักหรือถูกนอกใจ เป็นบทลงโทษที่สาหัสสากรรจ์สำหรับฝ่ายชาย
ชายอัฟกานิสถานผู้ขายผลไม้
เรื่อง Kabuliwala นำเสนอการอบรมเลี้ยงดูเด็กหญิงวัยกำลังน่ารักของครอบครัวมีการศึกษาครอบครัวหนึ่ง วันหนึ่งเด็กน้อยได้พบกับชายขายผลไม้จากอัฟกานิสถาน ทั้งคู่เป็นเพื่อนเล่นต่างวัยต่างเชื้อชาติและศาสนา เด็กหญิงทำให้ชายอพยพระลึกถึงลูกสาวของตัวเอง ซึ่งตัวละครชายขายผลไม้จากคาบูลเป็นตัวแทนการอพยพย้ายถิ่นของผู้คนจากที่ต่างๆ มาทำมาหากินในอินเดีย คนนอกที่ได้รับการต้อนรับจากเด็กหญิงที่เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ ซึ่งพร้อมเปิดประตูต้อนรับอีกฝ่าย การก้าวข้ามความแตกต่างของพรมแดนรัฐชาติ

Stories by Rabindranath Tagore นำเสนอประเด็นผู้หญิง การก้าวข้ามจารีต ขนบที่สังคมกำหนด สอดแทรกมิติสังคม การเมือง วัฒนธรรมของอินเดียให้ผู้ชมได้ศึกษา รวมทั้งกลวิธีในการเล่า การถ่ายทำที่ประณีต ละเมียดละไม และการตีความเรื่องราวที่ถูกนำเสนอเป็นซีรีส์ในฐานะสินค้าทางวัฒนธรรม ความคิด
เมื่อชมซีรีส์จบลง คงมีหลายคนอยากสวมใส่ส่าหรีซึ่งเป็นวัฒนธรรมอาภรณ์ของอินเดีย แม้เรื่องสั้นเหล่านั้นจะถูกเขียนมากว่า 150 ปี แต่ประเด็นอันเป็นหัวใจหลักของเรื่องยังคงอยู่ร่วมสมัยกับสังคมอินเดียอย่างแนบแน่นมาจนถึงปัจจุบัน
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “การพัฒนาความเชี่ยวชาญเอเชียใต้ศึกษา South Asian Experts”
ที่ได้รับทุนสนับสนุนโครงการจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
Photo credit :
– https://www.imdb.com/title/tt4853764/mediaviewer/rm3532173569/
– https://baligatesofheaven.blogspot.com/2017/12/chokher-bali-netflix-songs.html
– http://www.filmsufi.com/2018/02/kabuliwala-stories-by-rabindranath_4.html