ในช่วงเหตุการณ์ความรุนแรงในศรีลังการะหว่างเทศกาลปัสกา (Easter) ที่ผ่านมา การรายงานข่าวของสื่อเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยช่วยให้เราติดตามและเข้าใจความเป็นไปของสถานการณ์ได้อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องยอมรับว่า การทำงานของสื่อ โดยเฉพาะสื่อและสำนักข่าวต่างประเทศที่ไม่ต้องรับผลที่จะตามมาของการรายงานข่าวของตน ก็อาจจะกลายเป็นน้ำมันที่ช่วยโหมเชื้อไฟแห่งความขัดแย้งที่ครุกรุ่นอยู่ในพื้นที่ให้รุนแรงยิ่งขึ้นได้เช่นกัน
Life & Culture
ข่าวปลอมถือเป็นภัยทางความมั่นคงของประเทศอินเดีย เมื่อบวกกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการสื่อสารในปัจจุบัน ทำให้การแพร่กระจายเนื้อหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและปราศจากการตรวจสอบ ดังนั้นเมื่อผู้ผลิตสื่อขาดกลไกการตรวจสอบ กำกับ ควบคุม และคัดกรองจากตนเองแล้ว รัฐบาลอินเดียจึงเล็งเห็นว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการเข้ามาเป็นผู้รับผิดชอบให้เกิดความเที่ยงตรงและความน่าเชื่อถือในส่วนของผู้เผยแพร่ข้อมูล รัฐบาลอินเดียจึงเริ่มใช้มาตรการที่จะควบคุมการแสดงตัวตนผ่านสื่อสังคมออนไลน์
สื่อสังคม (Social Media) เป็นสื่อที่เปิดกว้างให้ใครก็ได้สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาได้ด้วยตนเอง จนส่งผลให้กลายสื่อหลักที่ช่วยแพร่กระจายแนวคิดสุดโต่ง สร้างความเกลียดชังระหว่างคนต่างศาสนา รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการแสดงออกถึงประทุษวาจา (Hate Speech) และอาจนำไปสู่การรวมตัวเพื่อการแสดงความรุนแรงเชิงกายภาพต่อผู้นับถือศาสนาอิสลามได้อย่างง่ายดาย
จากสถานการณ์ปัญหาข่าวปลอมที่กระจายตัว และสร้างความเสียหายอย่างกว้างขวาง รัฐบาลอินเดียได้ใช้โอกาสนี้เข้าแทรกแซงเพื่อจัดการปัญหาดังกล่าว แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความยุติธรรมในการใช้อำนาจดังกล่าว จนเกิดเป็นคำถามว่ารัฐบาลจะทำลายปีศาจตัวเดิมโดยการสร้างปีศาจตัวใหม่ขึ้นมาเองหรือไม่
โรคเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจระหว่างกลุ่มที่นับถือศาสนาอิสลามกับกลุ่มศาสนาอื่น ๆ อิสลามถูกมองว่าเป็นศาสนาที่ใช้ความรุนแรง และนำคำสอนของศาสนามาชักจูงให้เกิดการก่อการร้ายทั่วทุกมุมโลก แม้ว่าหลักคำสอนของศาสนาอิสลามนั้น เน้นในเรื่องความสันติ ความสงบสุข และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ด้วยปัญหานี้การจัดตั้งสื่อมุสลิมขึ้นมาในสังคมไทยเพื่อนำเสนอโลกมุสลิมให้สังคมไทยเข้าใจอิสลามมากขึ้