MALDIVES

SOUTH ASIA

Republic of Maldives

Data & Information

GENERAL INFORMATION

ที่ตั้ง             มัลดีฟส์เป็นประเทศหมู่เกาะปะการัง ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของินเดีย และอยู่ทางตัวนตกของศรีลังกา มีพื้นที่เหนือจรดใต้ 821 กิโลเมตร จากตะวันออกจรดตะวันตก 120 กิโลเมตร มีพื้นที่รวม 298 ตารางกิโลเมตร มีพื้นที่ชายฝั่งยาว 644 กิโลเมตรประกอบด้วยหมู่เกาะ 26 กลุ่ม รวม 1,190 เกาะ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 200 เกาะ และได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว 80 เกาะ

เมืองหลวง     มาเล (Male)

ภูมิอากาศ     ภูมิอากาศเป็นแบบเขตร้อนชื้น อุณหภูมิเฉลี่ย 27 – 30 องซาเซลเซียสตลอดทั้งปี มีสภาพอากาศร้อนชื้น และมีฝนตกชุก

ประชากร     391,904 คน

ภาษา           มัลดิเวียน (Maldivian) หรือ ดิเวฮี (Dhivehi) เป็นภาษาราชการ

ศาสนา อิสลาม (ซุนนี) ร้อยละ 98.6 พุทธ ร้อยละ 0.6 คริสต์ ร้อยละ 0.5 และ ฮินดู ร้อยละ 0.3

เชื้อชาติ      สิงหล (Sinhala) ดราวิเดียน (Dravidian) อาหรับ (Arabian) และแอฟริกัน (African)

GENERAL INFORMATION

สกุลเงิน                   รูฟิยา (Rufiyaa/MVR)

อัตราแลกเปลี่ยน     1 รูฟิยา เท่ากับ 2.11 บาท (NPR)

การขอวีซ่า             ผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศไทยสามารถพำนักในมัลดีฟส์ได้ไม่เกิน 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า และหนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน

วันสำคัญ                 วันชาติ 26 กรกฎาคม (วันที่ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักร)

ระบอบการเมือง     ระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ

ประธานาธิบดี        อิบราฮิม โมฮัมเมด โซลิห์ (Ibrahim Mohamed Solih) 2561-ปัจจุบัน

อุตสาหกรรมหลัก    การท่องเที่ยว การแปรรูปอาหารทะเล การแปรรูปมะพร้าว การขนส่ง การต่อเรือ งานหัตถกรรม

สินค้านำเข้า             ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เสื้อผ้า

สินค้าส่งออก           ปลาทูน่า และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอาหารทะเล

นำเข้าสินค้าจาก     สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ จีน อินเดีย มาเลเซีย ไทย ศรีลังกา

ส่งออกสินค้าไป      ไทย ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา ศรีลังกา บังกลาเทศ ไอร์แลนด์

GDP                          5.2 (2019)


HISTORY

หมู่เกาะนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวพุทธในคริสตวรรษที่ 5 ซึ่งเป็นผู้คนที่อพยพมาจากศรีลังกาและอินเดียตอนใต้ จนในปี 1153 (พ.ศ. 1696) เริ่มมีการเข้ามาของศาสนาอิสลาม และโปรตุเกสเข้ามามีอิทธิพลในปี ค.ศ. 1558 (พ.ศ. 2101) ก่อนจะถูกขับไล่ไปในปี ค.ศ. 1573 (พ.ศ. 2107) ในช่วงศตวรรษที่ 17 เกาะเหล่านี้ปกครองโดยสุลต่าย แต่อยู่ภายใต้การดูแลของชาวดัตช์ที่ครอบครองศรีลังกาในช่วงเวลานั้น หลังจากอังกฤษเข้ายึดครองศรีลังกาในปี 1796 (พ.ศ. 2303) หมู่เกาะอารักขาต่างๆ ก็กลายเป็นของอังกฤษไปด้วย มัลดีฟส์ตกเป็นของอังกฤษอย่างเป็นทางการในปี 1887 (พ.ศ. 2421)

ในปี 1953 (พ.ศ. 2487) ได้กลับมามีระบบสุลต่านอีกครั้ง และ ในปี 1965 (พ.ศ. 2499) มัลดีฟส์ได้รับอิสรภาพจากอังกฤษ และก่อตั้งสาธารณรัฐขึ้นมาในปี 1968 (พ.ศ. 2502) โดยปกครองด้วยระบบสุลต่าน กระทั่งในปี 1978 (พ.ศ. 2512) ได้เปลี่ยนระบบเป็นแบบประธานาธิบดี โดยมี นายอิบราฮิม นาเซอร์ (Ibrahim Nasir) เป็นประธานาธิบดีคนแรก ในปี 1982 (พ.ศ. 2516) และเข้าร่วมเป็นสมาชิกในเครือจักรภพ

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 รัฐบาลของนายโมมูน อับดุล เกยูม (Maumoon Abdul Gayoom) ได้วางโครงการระยะยาวเพื่อพัฒนามัลดีฟส์ให้มีความทันสมัยและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นโดยเฉพาะระบบการเมืองและเศรษฐกิจ โดยนายโมมูน อับดุล เกยูมอยู่ในอำนาจถึง 30 ปี จากการได้รับเลือกถึง 6 สมัยติดต่อกัน จากการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมเนื่องจากมีอยู่พรรคเดียว รัฐบาลของเขาถูกประท้วงหลายครั้ง ในเดือนสิงหาคม ปี 2003 (พ.ศ. 2537) นายโมมูน อับดุล เกยูมและรัฐบาลของเขาได้ให้คำมั่นว่าจะปฏิรูปประชาธิปไตยรวมถึงระบบการเมืองที่ยุติธรรมและมีเสรีภาพมากขึ้น ในปี 2005 (พ.ศ. 2539) จึงมีการอนุญาติให้มีการจัดตั้งพรรคการเมืองอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาได้

ในปี 2008 (พ.ศ. 2541) ก็ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ให้มีการตรวจสอบถ่วงดุลทางการเมืองให้เข้มแข็งมากขึ้น เพิ่มอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการ ในเดือนตุลาคม ปี 2008 (พ.ศ. 2541) จึงได้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น นายโมฮาเหม็ด นาชีด (Mohamed Nasheed) นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ปิดฉากการดำรงตำแหน่ง 30 ปีของนายโมมูน อับดุล เกยูม

ในปี 2012 (พ.ศ. 2555) มีการประท้วงจากการที่ นาชีด จับกุมผู้พิพากษา เขาจึงลาออกและมอบอำนาจให้ มุฮัมมัด วะฮีด ฮะซัน (Mohammed Waheed Hassan) ในปี 2013 (พ.ศ. 2556) มุฮัมมัด วะฮีด ฮะซัน และ อับดุลลา ยามีน อับดุล เกยูม (Abdulla Yameen Abdul Gayoom) ได้ลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี หลังจากต้องมีการลงคะแนนถึง 3 รอบ ผลการเลือกตั้ง อับดุลลา ยามีน อับดุล เกยูม เป็นฝ่ายชนะไปในที่สุด แต่เมื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเขากลับทำให้ความเป็นประชาธิปไตยของมัลดีฟส์ถดถอยลง โดยมีการลินรอนเสรีภาพของสื่อ จับกุมขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้าม และรวบอำนาจตุลาการมาไว้กับตัว ในเดือนกันยายน 2018 (พ.ศ. 2561) อับดุลลา ยามีน อับดุล เกยูม แพ้การเลือกตั้งให้แก่ อิบราฮิม โมฮัมเมด โซลิห์ (Ibrahim Mohamed Solih) ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน

CULTURE

วัฒนธรรมประเพณีและขนบธรรมเนียมของมัลดีฟส์ได้รับอิทธิพลมาจากหลายแหล่ง เช่น อินเดีย ศรีลังกา มาเลเซีย อาหรับ เปอร์เชีย อินโดนีเซีย รวมทั้งแอฟริกา กลายเป็นวัฒนธรรมแบบผสมผสานแบบเฉพาะตัวของมัลดีฟส์ เช่น ดนตรีและการเต้นรำแบบพื้นเมืองที่เรียกว่า โบดูเบรู (Boduberu) มีจังหวะดนตรีและรูปแบบการเต้นที่ได้รับอิทธิพลจากแอฟริกา โดยพบเห็นการแสดงรูปแบบคล้ายกันได้แถบ แอฟริกาทางใต้และตะวันออก หรือในด้านอาหารมัลดีฟส์ก็ได้รับอิธิพลมาจากทางอินเดียและแอฟริกา โดยอาหารมัลดีฟส์นิยมใช้เครื่องเทศมากมาย และมีเมนูเช่น แกง กะทิ และปลา
FESTIVAL

เทศกาลอีด (Kuda Eid)

เทศกาลการเฉลิมฉลองในตอนท้ายของเดือนรอมฎอน ถือเป็นวันหยุดของมัลดีฟส์ ผู้คนจะรวมตัวในมัสยิดเพื่อสวดมนต์ขอพรในตอนเช้า จากนั้นจะมีการจัดงานเลี้ยง มีขบวนพาเรดหรือการแสดงดนตรีพื้นบ้านไปตามถนน โดยจะมีการเฉลิมฉลองเป็นเวลา 3 วันและ และมีการให้ทานเรียกว่า ซะกาต (Zakath)

วันคล้ายวันเกิดศาสดาโมฮัมหมัด (Prophet’s Birthday)

เทศกาลทางศาสนาที่มีการเฉลิมฉลองในทุกปี ชาวมัลดีฟส์จะเชิญแขกและญาติมารวมตัวกันที่บ้าน มีการทำอาหารเมนูพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองด้วยกัน

เทศกาลบวงสรวง (Eid-ul-Al’h’aa)

ตรงกับวันที่ 10 ของปฏิทินอิสลามหรือวันที่ 66 หลังวันเสร็จสิ้นการถือศีลอด เป็นช่วงวันหยุดยาวของชาวมัลดีฟส์ ราว 5-7 วัน ผู้นับถือศาสนาอิสามคนนิยมไปแสวงบุญที่นครเมกกะ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ไปจะมีการเดินทางไปเยี่ยมญาติตามเกาะต่างๆ มีการเต้นรำ แสดงดนตรี เล่นกีฬาและเฉลิมฉลองกัน

eid-ul-alhaa
FOOD

มาสโรชี (Masroshi)
แป้งทอดยัดไส้เป็นขนมมัลดีฟส์แบบดั้งเดิม ทำจากแป้ง น้ำมันและเกลือ โดยไส้ประกอบด้วยปลาทูน่ารมควัน มะพร้าวขูด พริกไทยป่น หอมหัวใหญ่ กระเทียม ขิง ใบแกงสับและมะนาว นำไปทอดจนสุก สามารถเสิร์ฟได้ทุกมื้ออาหารหรือจัดเป็นอาหารว่างทานคู่กับชาก็ได้

มาสฮูนี่ (Mas huni)
อาหารเช้าแบบมัลดีฟส์ ทำจากปลาทูน่า หัวหอม มะพร้าวขูดฝอยและพริก นำส่วนผสมมาคลุกกันแล้วปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย จานนี้มักเสิร์ฟพร้อมกับแป้งรอสชี (roshi)

การูดียา (Garudhiya)
ซุปปลาน้ำใส โดยนำปลาทูน่ามาเคี่ยวกับใบเตย หอมหัวใหญ่ และเครื่องเทศ จานนี้มักเสิร์ฟพร้อมข้าวหรือแป้งรอสชี (roshi) โดยมีพริกสด พริกทอด หรือหัวหอมหั่นเป็นเครื่องเคียง

กูลละ (Gulha)
ลูกชิ้นทอดสอดไส้ปลาพื้นถิ่นหรือปลาทูน่ารมควัน โดยส่วนไส้จะผสมมะพร้าวและหัวหอม เป็นของว่างที่พบได้ในร้านทั่วไป มักถูกแนะนำให้ทางคู่กับชา

POLITICS

รัฐธรรมนูญของมัลดีฟส์ถูกนำมาใช้ในปีพ.ศ. 2551 ปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาล

พรรคการเมือง

Adhaalath Party-AP

Dhivehi Quamee Party-DQP

Dhivehi Rayyithunge

Party-DRP, Gaumiilthihaad-GI

Islamic Democratic Party-IDP

Maldivian Democratic Party-MDP

Maldives National Congress-MNC

Maldives Social Democratic Party-MSDP

People’s Alliance-PA,

People’s Party-PP,

Poverty Alleviation Party-PAP

Republican (Jumhooree) Party-JP

Social Liberal Party-SLP

ฝ่ายบริหาร

ประธานาธิบดี มาจากการเลือกตั้งโดยตรงอยู่ในตำแหน่งคราวละ 5 ปี ไม่เกิน 2 วาระ เช่นเดียวกับ รองประธานาธิบดีและประธานาธิบดีเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีประกอบด้วย รองประธานาธิบดี รัฐมนตรีและอัยการสูงสุด นอกเหนือจากรองประธานาธิบดีแล้วสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่เหลือจะถูกแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี

ฝ่ายนิติบัญญติ

รัฐสภามัลดีฟส์ใช้ระบบสภาเดียว เรียกว่า People’s Majlis มีสมาชิกจำนวน 85 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรง สมาชิกได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งวาระ 5 ปี สมาชิกจะมาจากเกาะมาเลและจากกลุ่มอะทอล 20 กลุ่มจากทั่วประเทศ จำนวนผู้แทนฝ่ายบริหารแต่ละฝ่ายจะพิจารณาจากจำนวนประชากรในท้องที่ แต่อย่างต่ำที่สุดทุกเขตจะมีตัวแทนได้ 2 คนขึ้นไป มีการประชุมกันอย่างน้อยสามครั้งต่อปี

ฝ่ายตุลาการ

มัลดีฟส์ใช้ระบบกฎหมายอิสลามเป็นพื้นฐาน ผสมกับระบบกฎหมายจารีตประเพณี อำนาจทางกฎหมายสูงสุด คือ ศาลฎีกา ผู้พิพากษาได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีโดยการหารือกับคณะกรรมาธิการด้านตุลาการซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 10 คนที่ได้รับการแต่งตั้งหรือได้รับการเลือกตั้งจากคณะรัฐบาลและประชาชนทั่วไป คณะกรรมาธิการตุลาการจะแต่งตั้งผู้พิพากษาคนอื่น ๆ อย่างอิสระ และไม่มีการกำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง แต่อายุเกษียณราชการที่ 70 ปี

ทั้งนี้ผู้พิพากษาทุกคนต้องเป็นมุสลิมสุหนี่ ศาลฎีกาตัดสินตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายมัลดีฟส์ ในกรณีที่ไม่มีกฎหมายที่ใช้บังคับจะพิจารณากฎหมายชารีอะห์ (กฎหมายอิสลาม) แทน ทั้งนี้รัฐธรรมนูญฉบับปีพ.ศ. 2551 ได้กำหนดให้ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ ประชาชนถูกห้ามไม่ให้กระทำการใดใดที่ขัดต่อหลักทางศาสนา หลักการนี้บังคับใช้กับหน่วยงานราชการและหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนด้วย

ECONOMY

มัลดีฟส์เป็นประเทศที่ถูกจัดอยู่ในระดับรายได้ปานกลาง อุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศ รัฐบาลลงทุนในการสร้างรีสอร์ทจำนวนมากเพื่อรองรับการท่องเที่ยว และมีนโยบายกระจายความเจริญไปยังส่วนท้องถิ่น โดยมีเป้าหมายกระจายรายได้และยกระดับมาตรฐานการครองชีพให้กับประชาชน รัฐบาลจึงมุ่งเน้นการพัฒนาสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่น โดยมีแผนให้เอกชนเข้ามาบริหารกิจการบางส่วน รวมทั้งยังสนับสนุนให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน โดยมีมาตรการจูงใจหลายอย่างเช่น อนุญาตให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศตั้งแต่ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปสามารถเป็นเจ้าของที่ดินได้

แหล่งรายได้รองของมัลดีฟส์ คือ การประมง มัลดีฟส์เป็นผู้ส่งออกปลาทูน่าที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นปลาทูน่าแห้ง แช่แข็งหรือแบบกระป๋อง หรือผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารทะเล สำหรับภาคประชาชน ผู้คนส่วนใหญ่ยังอยู่นอกระบบเศรษฐกิจ มีการทำการเกษตรบ้างแต่น้อย วัตถุดิบทางอาหารหลายอย่างจึงเน้นการนำเข้าเป็นหลัก นอกจากนี้มัลดีฟส์ยังมีรายได้จากการต่อเรือ การขนส่งทางทะเล

การท่องเที่ยวเป็ยรายได้หลักของมัลดีฟส์ ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ท หรือธุรกิจการเดินเรือและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว โดยการท่องเที่ยวคิดเป็น ร้อยละ 28 ของ GDP เป็นที่มาของเงินตราต่างประเทศ กว่าร้อยละ 60 และภาษีกว่าร้อยละ 90 ที่รัฐเก็บได้มาจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มัลดีฟส์กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังในช่วงปี 1970 และทำให้รูปแบบเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างรวดเร็ว

มัลดีฟส์ใช้เวลาเพียง 3 ทศวรรษ การท่องเที่ยวก็กลายเป็นรายได้หลักของประเทศ ทำให้มัลดีฟส์กลายเป็นประเทศที่ได้รับเงินตราต่างประเทศมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศที่มีGDP ใกล้เคียงกัน ตั้งแต่ปี 2008 มี รีสอร์ทในมัลดีฟส์กว่า 89 แห่ง และมีห้องพร้อมบริการกว่า 17,000 ห้อง ในปี 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากถึง 1.7 ล้านคนมาเยี่ยมเยียนหมู่เกาะแห่งนี้

DIPLOMATIC RELATIONS BETWEEN THAILAND

ไทยกับมัลดีฟส์สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อ 2 มิถุนายน 2524 และมีความสัมพันธ์อันดีกันมาตลอดทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน โดยสถานเอกอัครราชทูตมัลดีฟส์ ตั้งอยู่ในกรุงเทพ มี ฮูดะ อาลี ชารีฟ (Huda Ali Shareef) เป็นอัครราชทูตสาธารณรัฐมัลดีฟส์ประจำประเทศไทย ส่วนประเทศไทศมีสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำสาธารณรัฐมัลดีฟส์ อยู่ที่กรุงมาเล โดยมีนายอะห์มัด อะลี มะนิก (Mr. Ahmed Ali Manik) ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ สำหรับสถานทูตไทยมีสถานเอกอัคราชทูต อยู่ที่กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ซึ่งมีขอบข่ายความรับผิดชอบในมัลดีฟส์ด้วย ปัจจุบันมี นางจุฬามณี ชาติสุวรรณ เป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐมัลดีฟส์

ด้านเศรษฐกิจ ไทยและมัลดีฟส์มีการลงนามความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกันในปี 2556 ทำให้การค้าการลงทุนมีการขยายตัวขึ้นอย่างมาก ในช่วงปี 2554-2558 มูลค่าการค้าเฉลี่ยปีละ 124 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 9.64 ต่อปี และมีสัดส่วนการค้าเฉลี่ยร้อยละ 0.03 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทย นอกจากนี้ไทยกับมัลดีฟส์มีแนวคิดที่จะขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายความร่วมมือด้านประมง อุตสาหกรรมแปรรูป เนื่องจากมัลดีฟส์เป็นแหล่งนำเข้าปลาทูน่าที่สำคัญของไทย รวมถึงด้านการท่องเที่ยวซึ่งนักลงทุนไทยส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน

มูลค่าการลงทุนโดยตรงของไทยในมัลดีฟส์จนถึงปัจจุบัน มีตัวเลขประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทไทยที่เข้าลงทุนในมัลดีฟส์ ได้แก่ สิงห์ เอสเตท พฤกษา โฮลดิ้ง กลุ่ม บริษัทเครือเซ็นทารา ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล กลุ่มบริษัท Italthai Group เครือไมเนอร์ ไมเนอร์ ฟู้ด Six Senses (ธุรกิจสปา) สาขาอุตสาหกรรมที่มัลดีฟส์ให้การส่งเสริมการลงทุน คือ ธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม การก่อสร้าง พลังงาน การเดินเรือทางทะเล อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและอุตสาหกรรมสีเขียว

References

– https://www.britannica.com/place/Maldives

– https://www.worldbank.org/en/country/maldives/overview

– https://www.indexmundi.com/maldives/#Introduction

– https://worldpopulationreview.com/countries/maldives-population/

– https://www.tourism.gov.mv/

– http://www.atlapedia.com/online/countries/maldives.htm

– https://ditp.go.th/ditp_web61/article_sub_view.php?

filename=contents_attach/539601/539601.pdf&title=539601&cate=1282&d=0

– http://www.mfa.go.th/main/th/other/9241/99301-สาธารณรัฐมัลดีฟส์-(Maldives).html

– https://www.matichonweekly.com/column/article_254416

– https://maldivestourism.org/festivals/

– https://www.holidify.com/pages/food-in-maldives-1249.html

– https://www.travelonline.com/maldives/culture

– https://www.villanovo.com/guides/maldives/culture-traditions

– https://www.rakyimtour.com/travel-info 8-ข้อต้องรู้ก่อนไปมัลดีฟ/

– https://www.visahq.co.th/maldives/embassy/thailand/

– https://www.tasteatlas.com/

– http://www.thaiembassy.org/colombo/

– https://www.ditp.go.th/contents_attach/208322/208322.pdf

– https://www.nia.go.th/niaweb59/Data2562.pdf

Photo credit :

– Maldives como cocoa Photo by Shifaaz shamoon on Unsplash

– Gaadhiffushi, South Central Province, Maldives Photo by Ishan

 @seefromthesky on Unsplash

– Gili Lankanfushi Maldives, Republic of Maldives, Maldives Photo by Ishan @seefromthesky on Unsplash

– Sunset Harbour Maldives Image by Azwar Thaufeeq from Pixabay

– People Maldives Image by olivingstonegmailcom from Pixabay

– MASHUNI by Maldives on https://www.maldives.com/19630-2/

– Masroshi by TasteAtlas on https://www.tasteatlas.com/masroshi

– Garudhiya by Living + Nomads on https://livingnomads.com/2019/05/maldives-travel-blog/garudhiya/

– Gulha by Alchetron on https://alchetron.com/Gulha#gulha-df8ee593-7d8f-4690-870f-1bd74

d27177-resize-750.jpeg

– Eid-Festival-of-Maldives by Swan Tour on https://www.swantour.com/blogs/festivals-of-maldives/

– Prophet’s Birthday by Swan Tour on https://www.swantour.com/blogs/festivals-of-maldives/

– Eid-ul-Al’h’aa Festival by Destinations beyond India on 

http://www.destinationsbeyondindia.com/maldives/festivals.php