“โขล โท” หรือ “เปิดมันออก”เป็นเรื่องสั้นที่เกี่ยวกับเหตุการณ์การแบ่งแยกอินเดียและปากีสถานของมันโตที่มีผู้อ่านกันอย่างแพร่หลายมากที่สุด ในปีที่เรื่องสั้นเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์ มันได้ชื่อว่าเป็นเรื่องสั้นที่ฉาวโฉ่เรื่องหนึ่งของยุคสมัย ไม่ใช่เพียงแค่ด้วยโครงเรื่องหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวละครเท่านั้น แต่ประเด็นที่เรื่องสั้นเรื่องนี้ทำให้ทางการไม่พอใจก็คือการนำเสนอว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งระหว่างชาวฮินดูและชาวมุสลิม หรือระหว่างชาวฮินดูสถานและชาวปากีสถาน แต่มันคือความรุนแรงที่เกิดจากสันดานดิบและความป่าเถื่อนที่ซุกซ่อนอยู่ในกายของมนุษย์
History
ไซตูน บาโน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งวงการวรรณกรรมภาษาปัชโต ผู้เป็นแรงขับเคลื่อนสิทธิสตรีผ่านงานวรรณกรรมเกี่ยวกับการศึกษาและความเข้าใจสังคมปากีสถาน โดยเฉพาะเรื่องราวของสตรีในการกำหนดทิศทางการพัฒนาตนเอง
เมื่อนึกถึงการต่อสู้เพื่อเรียกร้องเอกราชของอินเดีย พวกเราโดยส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงมหาตมาคานธีก่อนเป็นลำดับแรก หากแต่ยังมีบุรุษร่างใหญ่ที่มักจะยืนเคียงข้างท่านมหาตมา นานว่า ฃ่าน อับดุล ฆอฟฟัร ฃ่านได้รับการขนานนามว่า ผู้ที่ได้ชื่อว่า “คานทีแห่งจังหวัดพรมแดน” และ “ราชาแห่งฃ่าน หรือ บาดชาห์ฃ่าน” จากความรักในสัจจะและอุดมการณ์ที่จะสร้างสังคมอันสันติและยุติธรรมที่พวกเขามีร่วมกัน
เนื้อเย็น หรือ ฐัณฑา โคศฺต (ठंडा गोश्त) เป็นเรื่องสั้นสุดอื้อฉาวของ ซะอาดัต ฮะซัน มันโต ผู้เขียนโตบา เตก ซิงห์ เรื่องสั้นที่ให้ภาพความโหดร้ายของความขัดแย้งระหว่างชุมชนในช่วงของการแบ่งแยกอินเดีย ค.ศ. 1974 ได้ดีที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง
ร่วมรำลึกเหตุการณ์ร่แบ่งแยกอินเดียในปี ค.ศ. 1947 ผ่านบทกวีบทที่สร้างชื่อให้กับอมฤตา ปริตัม เรื่อง อัช อาขํา วาริศ ชาห์ นูน หรือ “วันนี้ฉันจะพูดกับวาริศ ชาห์” คำตัดพ้อของอมฤตาต่อกวีชาวปัญจาบที่มีนามว่า วาริศ ชาห์ กวีแห่งปัญจาบ เพื่อปลุกเรียกให้วาริศ ชาห์ให้ฟื้นตื่นจากหลุมศพเพื่อจดจารกวีบทใหม่ในหนังสือแห่งรัก
ความฝันของสุลตาน่า ของ โรเกญา สาขาวัต โฮเซน หรือที่รู้จักกันในนาม เบกัม โรเกญา พยายามฉายภาพอนาคตของวิทยาศาสตร์และสังคมอุดมคติในโลกที่เพศหญิงมีอำนาจที่จะกำหนดความเป็นไปของโลก ที่แตกต่างจากโลกของวิทยาศาสตร์ที่เพศชายเป็นหัวเรือและคัดหางเสือ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา และชี้ชวนให้เราคิดถึงโลกทางเลือกที่น่าจะเป็นไปได้หากเราเปลี่ยนมุมมองและคุณลักษณะของคนที่มาเป็นผู้นำ
คาบูลิวาลลา หรือ พ่อค้าจากคาบูล เป็นเรื่องสั้นคุรุเทพ รพินทรนาถ ฐากูรเขียนขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1892 เรื่องสั้นที่เล่าเรื่องมิตรภาพระหว่างพ่อค้าชาวปาทานและเด็กหญิงชาวบังกาลีเรื่องนี้อยู่ในดวงใจของผู้อ่านทั่วโลกมานานนับร้อยปี จากเรื่องราวน้ำใจเล็กน้อยๆ และความเอื้ออารีของผู้คนในห้วงเวลาขัดสนเมตตากรุณานั้นจะมีพลังส่งผลต่อจิตใจ และเป็นความงดงามที่จะคงอยู่ไปนานแสนนาน โดยเฉพาะในยุคสมัยที่ต้องการพลังสว่างจากเรื่องสั้นเรื่องนี้มากกว่ายุคไหนๆ เช่นนี้
โตบา เตก ซิงห์ ของ ซะอาดัต ฮะซัน มันโตเป็นวรรณกรรมชิ้นแรกๆ พูดถึงเหตุการณ์การแบ่งแยกอินเดียและปากีสถานและยังถือว่าเป็นงานเขียนที่ทรงพลังมากที่สุดชิ้นหนึ่งที่เขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนั้น เรื่องสั้นเรื่องนี้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์การแบ่งแยกอินเดียและปากีสถานโดยใช้ฉากในโรงพยาบาลบ้าป็นทั้งการเปรียบเปรยและเสียดสีของโศกนาฏกรรมแห่งความวิปลาสครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
โดย ดร.บัณฑิต อารอมัน นักวิจัยประจำศูนย์เอเชียใต้ศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี ค.ศ. 2020 คือวาระครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยมุสลิมอาลีการ์ (Aligarh Muslim University) นับว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศอินเดีย มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1920 โดย เซอร์ ชัยยิด อะหมัด ข่าน (Sir Syed Ahmad Khan) รัฐบุรุษและนักปฏิวัติมุสลิมคนสำคัญ ช่วงเวลาในขณะนั้นอินเดียยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ดังนั้นเมื่อกล่าวถึงการปฏิรูปการศึกษามุสลิมในอินเดีย เซอร์ ชัยยิด อะหมัด ข่าน จึงเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกระลึกถึงและได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้จุดแสงสว่างแห่งวงการศึกษามุสลิมและเปลี่ยนแปลงสังคมมุสลิมในอินเดียด้วยอาวุธทางปัญญาเซอร์ ชัยยิด อะหมัด ข่าน เกิดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 1817 ในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ครอบครัวสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ โมกุล (Mughal) ยศตำแหน่งของเซอร์ ชัยยิด อะหมัด […]
สุนทรพจน์วันที่ 7 มีนาคมชิ้นนี้ถือเป็นคำประกาศเอกราชของบังกลาเทศ และได้รับการยกย่องว่าเป็นสุนทรพจน์ที่บันทึกความทรงจำสำคัญของมนุษยชาติ นอกเหนือจากการปลุกแรงใจให้ประชาชนลุกขึ้นมาพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพของประเทศชาติและตนเองแล้ว ท่านมูญีบุรฺยังได้ให้เค้าโครงที่สำคัญของรัฐในอุดมคติแก่บังกลาเทศและมนุษยชาติ