Bombay Begums: ความรัก นอกใจ ในใจ ต้องห้าม ต้องทำ

โดย นงค์ลักษณ์ บัทเลอร์

นักวิจัยผู้ช่วยประจำศูนย์เอเชียใต้ศึกษา 

สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Bombay Begums (2021) เป็นซีรีส์ 6 ตอนใน Netflix เกี่ยวกับเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตของผู้หญิงห้าคนได้แก่ ราณี ฟาติมา ไอยชา ลักษมี และ ไช แต่ละคนมีแตกต่างด้านวัย/อายุ ภูมิหลัง ปมชีวิต ความรัก ความปรารถนา ศาสนา สถานะ ชนชั้น บทบาทกับหน้าที่ในบ้านและนอกบ้าน ความแตกต่างเหล่านี้นำไปสู่เรื่องราว การค้นหาตัวตน และทางออก โดยใช้ความรักเป็นแกนหลักในการเล่าเรื่องผ่านเสียงของ “ไช” เด็กหญิงผู้กำลังก้าวไปสู่วัยสาว ซึ่งเป็นเสียงที่กำลังส่งไปบอกใครต่อใครว่านี่คืออีกด้าน พวกเธอไม่ใช่ “เสียงเงียบ” อีกต่อไป เราจึงต้องเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจไปพร้อมกับๆ ฟังเสียงเฉพาะของแต่ละคนที่กำลังเปล่งเสียงของตัวเองผ่านการเลือกใช้ชีวิต การถูกประกอบสร้างจากสังคม วัฒนธรรม อุดมคติที่ถูกคาดหวังในบทบาทของการเป็นผู้หญิง ลูกสาว แม่ และเมีย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเธอพร้อมใจกันแหกคอก ฉีกกฎ ปลดแอกตัวเองนั่นคือการออกมาต่อรองกับเพศตรงข้าม หรือแม้แต่กับเพศเดียวกันในพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ เสียงของ “ไช” จึงคอยแก้ต่าง เมื่อพวกเธอกำลังถูกสังคมซักฟอก ถูกตีตรา ถูกตัดสิน และถูกทำโทษ

แต่ละตอนของซีรีส์มีชื่อแตกต่างกันออกไป มี 5 ตอนถูกตั้งตามชื่อหนังสือของนักเขียนหญิง และหนังสือแต่ละเล่มมีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้หญิงในหลากมิติ ได้แก่ ตอนที่ 1 Women Who Run With the Wolves งานเขียนของ Clarissa Pinkola Estés ตอนที่ 3 The Color Purple งานเขียนของ Alice Walker ตอนที่ 4 The Bell Jar งานเขียนของ Sylvia Plath ตอนที่ 5 The Golden Notebook งานเขียนของ Doris Lessing และตอนที่ 6 A Room of One’s Own งานเขียนของ Virginia Woolf ส่วนตอนที่ 2 ชื่อ Love ซึ่งเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่ปรากฏอยู่ในหนังสือจำนวนมหาศาล และเป็นความรู้สึกที่ถูกใช้เป็นตัวแทนของผู้หญิง ได้รับการเล่าขานมาหลายชั่วอายุคน และ “ความรัก” ที่ปรากฏในเรื่อง นำไปสู่การรัก การถูกรัก ความเจ็บปวด การทรยศ การกระทำสิ่งต้องห้าม และพวกเธอต่างจับจ่ายเพศวิถีของตัวเองทั้งเพื่อการปลดเปลื้อง ค้นหาตัวเอง ต่อรอง ท่ามกลางความรักที่พบเจอ 

“ไช” สะท้อนเสียงของผู้หญิงทั้งห้าคนผ่านความรักว่า 

“ผู้หญิงที่มีความรัก เหงากว่าคนที่ไม่มีรักอีก” หรือ “ความรักคือการไขว่คว้าที่เดียวดาย” 

Bombay Begums นำเสนอผู้หญิงทั้งความงาม ความบ้าคลั่ง สิทธิเหนือเนื้อตัวร่างกายของพวกเธอ เผยให้เห็นหัวใจที่เรียกร้องความรัก เห็นความผุพังที่แตกสลายจากความรัก แต่ก็ยังพร้อมที่จะพังครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เข็ด รวมถึงสิ่งต้องห้ามที่พวกเธอเลือกเข้าไปลิ้มรส ทดลองใช้
ความรัก นอกใจ ในใจ ต้องห้าม ต้องทำ
“หนูว่าหัวใจเราคือสนามรบที่ใหญ่ที่สุด และความรักคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
 ราณี ฟาติมา ไอยชา ลักษมี และ ไช จึงใช้ชีวิตในสนามรบของตัวเองผ่านความรักที่พวกเธอปรารถนา หากไม่นับ “ไช” อีกสี่คนที่เหลือล้วนมีความในใจ มีการนอกใจ นำไปสู่การต้องทำในสิ่งต้องห้าม
freepressjournal_2021-03_46eb4824-01b2-4a89-8da9-b1688d1b73cf_157072585_255884112839138_4788749363989820612_n
“ราณี” ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเป็นซีอีโอของธนาคาร แต่เมื่อกลับเข้าบ้านสามียังรำพึงอยู่กับภรรยาคนก่อน ซ้ำร้ายเมื่อมีเพศสัมพันธ์กันฝ่ายชายยังพูดชื่อเมียเก่าเมื่อถึงจุดสุดยอด การกระทำของสามีเรียกว่าการนอกใจได้หรือไม่? เธอไม่ใช่วัตถุทางเพศ ดังนั้น ระหว่างเฝ้ารอความรักและถูกยอมรับทั้งจากสามีและจากลูกเลี้ยงในฐานะแม่เลี้ยง เธอจึงเลือกไปหาความรักและการถูกยอมรับด้วยการลักลอบคบผู้ชายอีกคน ต่อมาความสัมพันธ์ถูกเปิดเผยเป็นข่าวอื้อฉาวในหน้าหนังสือพิมพ์ ถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงไม่ดี แต่ราณีหาบุบสลายต่อสิ่งที่กำลังเผชิญ เธอสู้หน้ากับความจริง และมีสามีเคียงข้าง ซึ่งเขาเองก็รู้ว่าไม่ซื่อทางความรู้สึกกับเธอ ท้ายที่สุดสามีเข้าใจและลูกติดเปิดใจยอมรับเธอในฐานะแม่เลี้ยง

“ฟาติมา” ชีวิตเพียบพร้อมทั้งคู่ชีวิตและหน้าที่การงานที่ก้าวหน้ากว่าสามี ถูกคาดหวังจากการมีชีวิตคู่ว่าต้องเป็นแม่ การแท้งลูกเป็นจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสามี ขณะเดียวกันในหน้าที่การงานเธอก็ถูกผู้ชายใช้เป็นเครื่องมือในการหั่นขาเก้าอี้ตำแหน่งของ “ราณี” นั่นไม่สำคัญเท่ากับการทำให้สามีตัวเองด้อยค่าด้วยการนอกใจไปคบกับชายต่างชาติ จนนำไปสู่การแตกหักของชีวิตคู่

hmosbcaktf-1615182001
1615138506_bombay-begums-04_netflix

“ไอยชา” ผู้หญิงวัยเริ่มทำงานที่เข้ามาเผชิญโชคและใช้ชีวิตในบอมเบย์ เธอทำงานที่เดียวกับราณีและฟาติมา สนามรบของเธอเป็นทั้งสนามรัก สนามทดลอง/ทดสอบการใช้ชีวิต ประสบการณ์ที่ยังน้อยทำให้บางครั้งเธอใช้ชีวิตหลักลอย ไร้เป้าหมายแต่ก็ทำให้เห็นการค้นหาตัวตน เธอมีความสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศและเพศเดียวกัน ความสัมพันธ์กับเพื่อนซึ่งเป็นสามีของผู้หญิงอีกคน ที่ไอยชามาขออยู่ด้วยระหว่างหาห้องเช่าในบอมเบย์ ส่วนการคบกับเพศเดียวกันก็เป็นการค้นหาตัวเอง และการถูกล่วงละเมิดจากผู้บริหารในที่ทำงาน จนนำไปสู่การต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเองและคลี่คลายปมชีวิตของราณีซึ่งในอดีตเคยถูกล่วงละเมิด ประเด็น #MeToo นำไปสู่ตอนจบของซีรีส์ ให้กำลังใจแก่ผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดว่าพวกเธอไม่เดียวดายและต้องร่วมกันเปล่งเสียงออกมา

“ลักษมี” ราชินีนักเต้นและหญิงขายบริการ ลูกชายของเธอถูกลูกชายของราณีขับรถชนจนขาพิการ เธอเฝ้ารอชายคนรักจากตะวันออกกลาง เมื่อได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เขาสัญญาจะพาเธอไปอยู่ด้วย แต่มารู้ภายหลังว่าฝ่ายชายมีภรรยาและลูก เธอไม่ได้เลือกเป็นเมียน้อยแต่นิยามตัวเองว่าเป็นคนรักของผู้ชายคนนั้น จนที่สุดเธอเลือกจะอยู่บอมเบย์และเปิดโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่ได้รับการอนุมัติเงินกู้จากราณีแลกกับการไม่เอาผิดลูกชายของเธอ แต่กว่าจะถึงวันที่ราชินีนักเต้นและหญิงบริการได้เปิดบริษัทเป็นของตัวเอง เธอและลูกก็ต้องเผชิญกับคำดูถูกดูแคลนและการถูกประณาม

Bombay_Begums__1809878__00_18_35_04__1115187-1
Bombay_Begums__1809880__00_31_04_11__1864479-1

“ไช” เด็กรอวันเป็นสาวที่มีโลกส่วนตัว แม่จากไปตั้งแต่เธอยังเยาว์ การปรับตัวเพื่อยอมรับแม่เลี้ยงอย่างราณีไม่ใช่เรื่องง่าย เด็กกำลังเป็นสาวก็เรียกร้องความรักความสนใจจากเพศตรงข้าม เมื่อเธอเปิดใจยอมรับราณี ความเป็นหญิง/ความต้องการเป็นแม่ของเธอ ต่างได้เข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มกันและกันในที่สุด เสียงของไชที่เล่าเรื่องของผู้หญิงตั้งแต่อดัมกับอีฟ จนมาถึงยุคปัจจุบัน เป็นการไล่เรียงให้เห็นผู้หญิงในแต่ละยุคว่าล้วนเผชิญประสบการณ์ไม่ต่างกัน

ลำดับชั้น สถานะ การต่อรองอำนาจ ปิตาธิปไตย

Bombay Begums ไม่ได้มุ่งวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นเรื่องลำชั้นวรรณะทางสังคมของอินเดีย แต่เล่าเรื่องให้เห็นความแตกต่างของลำดับชั้นในสังคม โดยเฉพาะหน้าที่การงานและบทบาทในบ้านว่าทำให้เกิดการต่อรองอำนาจระหว่างกันอย่างไรได้บ้าง แม้อีกคนจะสถานะทางสังคมด้อยกว่า เช่นกรณีของลักษมีกับราณี เมื่อใดก็ตามที่อีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำทำผิด อีกฝ่ายที่ด้อยสถานะกว่าก็สามารถพลิกขึ้นมาถือไพ่เหนือกว่าได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หรือการไปซื้อบริการของลูกชายราณี ก็สะท้อนถึงการต่อรองอำนาจระหว่างหญิงขายบริการกับคนซื้อบริการ ที่ต้องมาสยบยอมขึ้นครูกับหญิงงามเมือง และการที่ราณีไม่ได้รับการยอมรับจากลูกเลี้ยง ขณะที่ในการทำงานเธอตำแหน่งใหญ่โต และผู้คนสยบยอมต่อเธอ
การใช้เพศวิถีในเรื่องของการนอกใจ ทรยศ หักหลัง มีชู้ เป็นอำนาจเหนือที่ผู้หญิงสามารถบั่นทอนคุณค่าในตัวผู้ชายที่เป็นสามี ขณะเดียวกัน ผู้หญิงด้วยกันเองก็สามารถนำประเด็นดังกล่าวมาหั่นอำนาจต่อกันเองได้เช่นเดียวกัน เช่น การที่ภรรยาของผู้บริหารที่ล่วงละเมิดไอยชา มาต่อรองเจรจากับเธอ เพื่อยุติการเอาเรื่องสามีของตัวเอง และฉากที่เห็นการต่อรองอำนาจเชิงสัญลักษณ์อีกฉาก คือ ฉากที่ไอยชาจูบกับนักร้องผู้หญิงแล้วอีกฝ่ายใช้ปลายเท้าเหยียบปลายเท้าของไอยชาเอาไว้ ต่อมาตัดมาฉากที่ไอยชาจูบกับเพื่อนร่วมงาน เธอเป็นฝ่ายเขย่งปลายเท้าขึ้นไปจูบฝ่ายชาย ซึ่งภาษาหนังจับภาพให้เห็นเท้าของทั้งคู่ทั้งสองฉาก เพื่อกำลังจะสื่อสารว่าแม้แต่เพศเดียวกันก็มีการกดขี่กดทับ ส่วนกับเพศตรงข้ามก็ต้องเขย่งให้ทัดเทียมกัน

การทำงานในองค์กร สะท้อนอำนาจปิตาธิปไตยที่แฝงฝังอยู่ภายใน และผู้หญิงต้องต่อกร เจรจา ผ่อนหนักผ่อนเบา เล่นเกมต่อรองอำนาจ ชิงไหวชิงพริบตลอดเวลา และปิตาธิปไตยยังเป็นใบเบิกทางไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิงในองค์กร

#MeToo

การเคลื่อนไหว #MeToo ในอินเดียเกิดขึ้นเมื่อปีค.ศ. 2018 และ Bombay Begums ก็มีปลายทางในประเด็นดังกล่าว เพื่อเรียกร้อง “กลุ่มเสียงเงียบ” ให้ออกมาเรียกร้องสิทธิเหนือเนื้อตัวร่างกายของตัวเอง ไม่สยบยอมต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่ควรเพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ราณีซึ่งมีหน้าที่การงานสูงเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม ก็ยังไม่พ้นการตกเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศ หนังนำพาไปสู่เป้าหมายพร้อมด้วยกำลังใจและหาทางออกให้กับผู้ถูกกระทำ รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ถึงความรัก ความล้ำค่าของการเป็นผู้หญิง หนังไม่ได้ชี้ถูกผิด นำเสนอสิ่งที่ตัวละครต้องเผชิญในทุกเพศสถานะ การที่ผู้หญิงซึ่งเป็นตัวละครหลักมีพฤติกรรมต้องห้าม ล้วนมีที่มาที่ไป และชีวิตของลักษมีงอกงามใหม่ได้ หากสังคมให้โอกาส เช่นเดียวกับผู้หญิงอีกสี่คน ราณี ฟาติมา ไอยชา และ ไช ที่ภาษาหนังและบทกำกับให้พวกเธอได้เบ่งบานในระหว่างทางอันขรุขระของชีวิตและความรัก

“สิ่งสำคัญคือเรารักษาเศษใจที่เหลือและก้าวต่อไป”

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “การพัฒนาความเชี่ยวชาญเอเชียใต้ศึกษา South Asian Experts”

ที่ได้รับทุนสนับสนุนโครงการจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

Photo credit :

– https://in.mashable.com/entertainment/20296/bombay-begums-trailer-pooja-bhatt-shahana-goswami-amruta-subhash-are-survivors-in-this-netflix-serie

– https://readysteadycut.com/2021/03/08/recap-bombay-begums-season-1-episode-1-netflix-series/

– https://readysteadycut.com/2021/03/08/recap-bombay-begums-season-1-episode-6-netflix-series/

– https://www.freepressjournal.in/entertainment/ncpcr-asks-netflix-to-stop-streaming-bombay-begums-which-shows-minors-indulging-in-casual-sex-and-drug-abuse

– https://www.telegraphindia.com/entertainment/team-bombay-begums-pooja-bhatt-shahana-goswami-amruta-subhash-aadhya-anand-and-creator-director-alankrita-shrivastava-chat-with-t2-about-their-new-age-slice-of-life-sho/cid/1808813

– https://scroll.in/reel/988908/bombay-begums-review-spirited-performances-in-show-about-the-different-shades-of-womanhood

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *